เตรียมลุยต่อ กพช เคาะราคาซื้อโซลาร์ฟาร์มชุมชน ขยายระบบส่งไฟรับ Data Center

เศรษฐกิจ - การลงทุน

เตรียมลุยต่อ ! กพช.เคาะราคาซื้อโซลาร์ฟาร์มชุมชน-ขยายระบบส่งไฟรับ Data Center

Clock Icon

29 ตุลาคม 2568

แชร์ :

เนื่องจากระบบไฟฟ้าของไทยที่ผ่านมา ถูกพึ่งพาการผลิตจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในพื้นที่จำกัด ทำให้ต้นทุนส่งจ่ายไฟสูงและมีความเปราะบางต่อความผันผวนด้านพลังงานโลก 

แผนโซลาร์ฟาร์มชุมชนเลยถูกวางให้เป็น “กลไกกระจายศูนย์พลังงาน” โดยกระทรวงพลังงาน เดินหน้านโยบาย Quick Win ด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับแนวทางรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล แบบเร่งด่วนภายในเวลา 4 เดือน

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้พิจารณาวาระสำคัญด้านพลังงาน 7 เรื่อง และมีมติเห็นชอบโดยพร้อมลุยในสิ้นปีนี้ ซึ่งโครงการที่น่าสนใจอย่างมีนัยสำคัญคือ โซลาร์ฟาร์มชุมชน และ ปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับ Data Center บริเวณภาคตะวันออกเพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ที่จะลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าในชุมชน และหนุนเศรษฐกิจดิจิทัลได้มากขึ้น

ทำไมประชาชนอย่างเราต้องรู้ เรื่องนี้มีประโยชน์อย่างไร

โครงการที่ว่านี้มีเป้าหมายเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชน และการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน (Community-based Solar Power Generation Project) เป็นโครงการไฟฟ้าชุมชน มุ่งเน้นการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ครอบคลุม 1.2 ล้านครัวเรือน 

ซึ่งรูปแบบโครงการ โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อแห่ง รวมกำลังผลิต ไม่เกิน 1,500 เมกะวัตต์ทั่วประเทศ โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเป็นผู้รับซื้อไฟในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ในอัตราไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 25 ปี

โดยจะกำหนดพื้นที่ชุมชนที่เหมาะสมสำหรับดำเนินโครงการ พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการให้เรียบร้อยในเดือน พ.ย. และจะประกาศเงื่อนไขโครงการภายในเดือน ธ.ค. ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กับชุมชนได้ราว 40-80 สตางค์ต่อหน่วย

นอกจากนี้ อีกหนึ่งในโครงการที่น่าจับตามองอย่าง การปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับ Data Center ที่จะขยายเพิ่มขึ้น โดยจะปรับปรุงบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออก (TIPE) ในวงเงินราว 3,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจ่ายไฟฟ้ารวม 1,750 เมกะวัตต์ ที่ครอบคลุมจังหวัดระยองและชลบุรี

รวมถึงทาง กฟผ. ยังจัดทำรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมระยะสั้นและระยะยาว ในวงเงินรวม 30,500 ล้านบาท ที่ช่วยเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าในพื้นที่ EEC ในการรองรับการเติบโตของภาคดิจิทัล 

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่านี่จะเป็นความหวังของการผลักดันเศรษฐกิจโดยภาคพลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าไฟให้ประชาชนแล้ว ยังถือเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น และการเตรียมพร้อมเพื่อการลงทุนใหม่ในอนาคต

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตรียมลุยต่อ !