
ท่ามกลางกระแส AI เข้ามามีความสำคัญมากขึ้นแทบทุกมิติ ที่หลายประเทศนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ล่าสุด รัฐบาลไทย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุม “บอร์ดเอไอแห่งชาติ” เพื่อเดินหน้าเทคโนโลยี AI อย่างเป็นระบบทั่วประเทศ หนุนสร้างบุคลากรด้าน AI เต็มกำลัง เพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต
โดยมีแผนผลักดันเทคโนโลยี AI ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่เพิ่มศักยภาพให้ไทยสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ซึ่งจะเน้นไปการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ อย่างการสาธารณสุข การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม เป็นหลัก พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศ (national AI Committee) ที่คอยกำกับทิศทางการพัฒนา AI ในด้านต่างๆต่อไป
AI จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร ?
AI มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการต่างๆได้ดี ทำให้กระบวนการเป็นระบบอัตโนมัติ และสร้างข้อมูลเชิงลึกในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การปฏิวัติระบบดูแลสุขภาพด้วยการวินิจฉัยที่รวดเร็วขึ้น ไปจนถึงการใช้ทดแทนแรงงานมนุษย์ในงานบางประเภท
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ “ผู้ใช้ต้องมีทักษะในการใช้งาน” ซึ่งรัฐบาลเองเล็งเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้ จึงมีแผนที่จะสร้างทักษะด้าน AI ให้กับบุคลากร โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าบุคลากรที่เป็น AI User ต้องมีไม่น้อยกว่า 10,000,000 คน , AI Professional มีจำนวนไม่น้อยกว่า 90,000 คน และ AI Developer มีจำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คน ภายในเวลาสองปี
นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเสริมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน อย่างระบบคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ จีพียู และการพัฒนาแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์เปิด (Open Source AI Platform) ให้เพียงพอ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Bank) ที่จะรวมข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา AI ในสาขาต่างๆ และภาครัฐก็มีแผนจะเปลี่ยนระบบข้อมูลต่าง ๆ ของหน่วยงาน ให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดภายในปี 2569 เพื่อปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลของรัฐได้สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง
นี่จะเป็นอีกหนึ่งในโครงการ ที่ช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีไทยให้ก้าวทันระดับโลกมากขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชาติให้ดีขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน
ล่าสุด รัฐบาลไทย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุม “บอร์ดเอไอแห่งชาติ” เพื่อเดินหน้าเทคโนโลยี AI อย่างเป็นระบบทั่วประเทศ หนุนสร้างบุคลากรด้าน AI เต็มกำลัง เพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต
โดยมีแผนผลักดันเทคโนโลยี AI ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่เพิ่มศักยภาพให้ไทยสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ซึ่งจะเน้นไปการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ อย่างการสาธารณสุข การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม เป็นหลัก พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศ (national AI Committee) ที่คอยกำกับทิศทางการพัฒนา AI ในด้านต่างๆต่อไป
AI จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร ?
AI มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการต่างๆได้ดี ทำให้กระบวนการเป็นระบบอัตโนมัติ และสร้างข้อมูลเชิงลึกในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่การปฏิวัติระบบดูแลสุขภาพด้วยการวินิจฉัยที่รวดเร็วขึ้น ไปจนถึงการใช้ทดแทนแรงงานมนุษย์ในงานบางประเภท
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือ “ผู้ใช้ต้องมีทักษะในการใช้งาน” ซึ่งรัฐบาลเองเล็งเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้ จึงมีแผนที่จะสร้างทักษะด้าน AI ให้กับบุคลากร โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าบุคลากรที่เป็น AI User ต้องมีไม่น้อยกว่า 10,000,000 คน , AI Professional มีจำนวนไม่น้อยกว่า 90,000 คน และ AI Developer มีจำนวนไม่น้อยกว่า 50,000 คน ภายในเวลาสองปี
นอกจากนี้ ยังมีแผนส่งเสริมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน อย่างระบบคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ จีพียู และการพัฒนาแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์เปิด (Open Source AI Platform) ให้เพียงพอ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Bank) ที่จะรวมข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา AI ในสาขาต่างๆ และภาครัฐก็มีแผนจะเปลี่ยนระบบข้อมูลต่าง ๆ ของหน่วยงาน ให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมดภายในปี 2569 เพื่อปรับตัวให้ก้าวทันเทคโนโลยีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลของรัฐได้สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง
นี่จะเป็นอีกหนึ่งในโครงการ ที่ช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีไทยให้ก้าวทันระดับโลกมากขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชาติให้ดีขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
รัฐบาลAIบอร์ดเอไอเเห่งชาติLocaltechTechMovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจไอที
แนวโน้มความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ CISOs ต้องจับตาในปี 2025


ธุรกิจไอที
บริหารคนแบบองค์กรยุคใหม่ จัดการง่ายด้วย “One Book”


ธุรกิจไอที
"เล็กลง แต่ฉลาดขึ้น" ทางเลือกใหม่ของ AI สำหรับองค์กร


ธุรกิจไอที
ภัยพิบัติไหน งานก็ไม่สะดุด ทำได้ทุกที่ด้วย “VDI”
