เมื่อ มือถือ กลายเป็นเครื่องมือ Scammer

ธุรกิจไอที

เมื่อ "มือถือ" กลายเป็นเครื่องมือ Scammer ?

Clock Icon

1 พฤศจิกายน 2568

แชร์ :

รู้หรือไม่ ? แค่คลิกลิงก์ที่ไม่มีที่มาที่ชัดเจน ก็อาจทำให้อุปกรณ์ของเราอาจถูกฝังซอฟต์แวร์ดักจับข้อมูล ที่ติดตามการใช้งาน หรือกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย Botnet โดยที่คุณไม่รู้ตัว

แล้ว Botnet คืออะไร ทำงานยังไง?

Botnet มาจากคำว่า Robot + Network หรือเครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกแฮกและควบคุมจากระยะไกลผ่านมัลแวร์ ที่แค่เผลอคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์อันตรายแค่ครั้งเดียว อุปกรณ์ของเราก็จะถูกติดตั้งโปรแกรม “บอท” ที่พร้อมทำงานให้คนร้ายทันที  ทั้งขโมยข้อมูลส่วนตัว ส่งต่อบัญชี รวมถึงการแพร่ไปยังอุปกรณ์อื่น ก็ทำได้อัตโนมัติ

ซึ่งมี Bot Master คอยควบคุมจากระยะไกล และนำอุปกรณ์ที่ใช้โจมตีจำนวนมากมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ โดยนำไปใช้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ทั้งขโมยบัญชีผู้ใช้ ทำธุรกรรมฉ้อโกง หรือแม้แต่ทำให้เว็บไซต์และบริการล่ม

ทำให้อาชญากรรมออนไลน์วันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การโทรหลอกโดยใช้กลอุบายอีกต่อไป แต่กลายเป็นอุตสาหกรรมอาชญากรรมเต็มรูปแบบ ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงควบคุมการโจมตีและขโมยข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ‑นามสกุล เลขบัตรประชาชน หมายเลขบัญชีธนาคาร สลิปโอน หรือ session ของโซเชียล ถูกขโมยและขายต่อในตลาดมืดบน Telegram ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรไซเบอร์สามารถหลอกลวงและโกงเงินได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังใช้คริปโตฯ ทำให้การตามเงินหรือสืบเส้นทางการเงินทำได้ยาก

นอกจากนี้ ข้อมูลเหล่านี้ยังถูกนำมาใช้เป็นอาวุธในโลกดิจิทัลได้โดยถูกนำมาใช้เป็น “กองทัพไซเบอร์” ที่ปั่นกระแส ปล่อยข่าวเท็จ และชี้นำความคิดเห็นของผู้คนได้ในวงกว้าง ซึ่งส่วนมากมักถูกนำมาใช้ในเรื่องการเมือง เห็นได้จากช่วงปลายเดือน ก.ค.68 ที่ผ่านมา พบว่าสื่อและเว็บไซต์ของทางการไทย ถูกโจมตีด้วย DDos Attack ถึงกว่า 500 ล้านครั้ง

แล้วจะระวังตัวจาก Botnet ได้ยังไง?

อย่างแรกแนะนำให้เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ พร้อมติดตั้ง Firewall หรือซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ นอกจากนี้ต้องคอยระวังไฟล์ดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน คลิกลิงก์ หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเป็นช่องทางให้ Botnet หรือมัลแวร์แฝงเข้ามา ที่จะขโมยข้อมูลส่วนตัวและบัญชีของคุณได้โดยไม่รู้ตัว

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง