เกาหลีใต้เร่งกู้ข้อมูล หลังไฟไหม้หนัก กระทบบริการออนไลน์

ธุรกิจไอที

เกาหลีใต้เร่งกู้ข้อมูล หลังไฟไหม้หนัก กระทบบริการออนไลน์

Clock Icon

2 ตุลาคม 2568

แชร์ :

เหตุไฟไหม้ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติเกาหลีตั้งแต่คืนวันที่ 26 ก.ย. 68 ทำกระทบทั้งระบบบริการภาครัฐ โดยเหตุเกิดจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนระเบิดในห้องคอมพิวเตอร์บนชั้น 5 ของอาคาร ส่งผลให้ระบบและบริการออนไลน์ของรัฐบาล 647 แห่งต้องหยุดให้บริการ

วันนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ยังกู้คืนไม่สำเร็จ โดยทางรัฐบาลก็ได้แจ้งความคืบหน้าว่ากำลังเร่งกู้ข้อมูลทุกอย่างให้กลับมาได้เร็วที่สุด

แม้ว่าระบบส่วนใหญ่จะสามารถกู้คืนได้ 62 ระบบจากทั้งหมด ก็อาจยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ทันที โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าอาจใช้เวลาสองถึงสี่สัปดาห์ถึงจะกู้คืนได้ทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลจะเน้นให้ความสำคัญกับการกู้คืนระบบที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเป็นอันดับแรก เพื่อเพิ่มสะดวกในการใช้งานของประชาชนในช่วงเทศกาลชูซอก

เพราะเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การสำรองข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เหตุไหม้นี้ชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ขอโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระดับประเทศ โดยมีระบบเพียงไม่กี่ระบบเท่านั้นที่สามารถกู้คืนได้ทันที ทำให้ต้องใช้เวลานานในการกู้คืนระบบทั้งหมด

ผู้เชี่ยวชาญได้วิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลขาดแผนฉุกเฉิน และการสำรองข้อมูลที่เพียงพอ แม้จะเคยเกิดเหตุการณ์บริการหยุดชะงักที่คล้ายกันมาก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม ทำให้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบันต้องออกคำสั่งให้ปรับปรุงความปลอดภัยของระบบอย่างเข้มงวดขึ้น

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการที่รัฐบาลทำระบบให้เป็นแบบศูนย์รวมนั้นเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มีแค่ “ขาดการสำรองข้อมูล” เลยทำให้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหานานขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้การกู้คืนข้อมูล ก็อาจจะไม่สามารถกู้ให้กลับคืนมาได้ 100% หากไม่มีระบบสำรองข้อมูลที่ดีมาติดตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรก การวางแผนจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเป็นองค์กรใหญ่ อาจต้องมีแผนที่รัดกุมมากขึ้น

อย่างการนำระบบสำรองข้อมูล หรือ Disaster Recovery site (DR) การกู้คืนระบบภายหลังภัยพิบัติ ซึ่งหัวใจสำคัญของการวางแผนคือ Disaster Recovery Site (DR Site) โดยองค์กรควรจัดเตรียมไว้เพื่อรองรับการดำเนินงานของระบบ IT ที่สำคัญ

เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ระบบหลัก (Primary Site) ไม่สามารถใช้งานได้ DR Site จะถูกเปิดใช้งานเพื่อให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วที่สุด หรือในระดับที่ยอมรับได้ เหมือนมีบ้านสำรองเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ฉุกเฉิน ก็สามารถย้ายไปอยู่อีกบ้านได้ก่อน ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินงานต่อไปได้ และลดผลกระทบจากการหยุดชะงัก

เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นตัวอย่างให้หลายองค์กรใหญ่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสำรองข้อมูลมากขึ้น การมี Disaster Recovery Site จะเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ช่วยปกป้ององค์กรจากความเสี่ยงของข้อมูลองค์กรที่ไม่อาจควบคุมได้มากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาหลีใต้เร่งกู้ข้อมูล หลังไฟไหม้หนัก กระทบบริการออนไลน์