
ถ้าภาพที่คุณเคยเห็นกำลังค่อยๆ มืดลง และเลือนหายไป จนกระทั่ง “มืดสนิท” นี่คือชีวิตของผู้ที่เผชิญกับความบกพร่องทางการมองเห็น
ความจริงของผู้คนกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก ที่เผชิญกับการสูญเสียการมองเห็น หรือป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับ “จอประสาทตา” ส่วนสำคัญในการแปรภาพจากดวงตาไปสู่สมอง
แม้จะมีทางเลือกทางการแพทย์เพื่อรักษา อย่างการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตา การจี้ด้วยเลเซอร์ หรือแม้แต่ การผ่าตัด ก็ตามแต่ขั้นตอนเหล่านี้ล้วนต้องใช้ “เวลา” ทั้งในการรักษา และการฟื้นตัว ที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะตอบสนองต่อการรักษาเหล่านี้ได้ดีเสมอไป
อุปกรณ์จอประสาทตาเทียม ที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยจากเซี่ยงไฮ้ มีการใช้วัสดุนาโนขั้นสูง อย่างเส้นใยนาโนเทลลูเรียม (tellurium nanowire) ซึ่งมีความบางเป็นพิเศษมากกว่า เทคโนโลยีแบบเดิมถึง 10 เท่า
ทำให้ปลูกถ่ายได้ง่ายและเข้ากับดวงตาได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือปฏิกิริยาต่อต้านจากเนื้อเยื่อตา รวมถึงสามารถยืดหยุ่น และเข้ากันกับสภาพแวดล้อมในดวงตาได้ดีอีกด้วย
โดยถูกทดลองในสัตว์ที่สูญเสียการมองเห็น เช่น หนูทดลอง และ ลิงแม็กแคก (Macaque) พบว่าสามารถฟื้นฟูการตอบสนองต่อแสง และแยกรูปแบบได้ใกล้เคียงหนูปกติ รวมถึงปลูกถ่ายได้สำเร็จในลิงแม็กแคก ทำให้เห็นว่ากระบวนรักษานี้จะมีความปลอดภัย และยังมีความสามารถในการตรวจจับคลื่นแสงใกล้อินฟราเรดระยะ 1,550 นาโนเมตรและยังเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก
ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาที่ “ลดการเปิดแผลหรือการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อให้น้อยที่สุด” แต่ยังฟื้นฟูการมองเห็นในที่แสงน้อยได้ดี โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคตารุนแรง และคาดว่าจะนำไปสู่การทดลองในมนุษย์ในอนาคต ที่จะพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีฟื้นฟูการมองเห็นที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เพราะหากอุปกรณ์นี้สามารถใช้งานในมนุษย์ได้จริง "จอประสาทตาเทียม" จะกลายเป็นทางรอดใหม่ให้ผู้ป่วยที่หมดหวังกับการรักษาแบบเดิม ที่เปลี่ยนชีวิตของผู้คนให้มองเห็นได้อีกครั้ง
ความจริงของผู้คนกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก ที่เผชิญกับการสูญเสียการมองเห็น หรือป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับ “จอประสาทตา” ส่วนสำคัญในการแปรภาพจากดวงตาไปสู่สมอง
แม้จะมีทางเลือกทางการแพทย์เพื่อรักษา อย่างการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตา การจี้ด้วยเลเซอร์ หรือแม้แต่ การผ่าตัด ก็ตามแต่ขั้นตอนเหล่านี้ล้วนต้องใช้ “เวลา” ทั้งในการรักษา และการฟื้นตัว ที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะตอบสนองต่อการรักษาเหล่านี้ได้ดีเสมอไป
จากฝันที่เคยเป็นไปไม่ได้ สู่เทคโนโลยี "จอประสาทตาเทียม"
อุปกรณ์จอประสาทตาเทียม ที่พัฒนาโดยทีมนักวิจัยจากเซี่ยงไฮ้ มีการใช้วัสดุนาโนขั้นสูง อย่างเส้นใยนาโนเทลลูเรียม (tellurium nanowire) ซึ่งมีความบางเป็นพิเศษมากกว่า เทคโนโลยีแบบเดิมถึง 10 เท่า
ทำให้ปลูกถ่ายได้ง่ายและเข้ากับดวงตาได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือปฏิกิริยาต่อต้านจากเนื้อเยื่อตา รวมถึงสามารถยืดหยุ่น และเข้ากันกับสภาพแวดล้อมในดวงตาได้ดีอีกด้วย
โดยถูกทดลองในสัตว์ที่สูญเสียการมองเห็น เช่น หนูทดลอง และ ลิงแม็กแคก (Macaque) พบว่าสามารถฟื้นฟูการตอบสนองต่อแสง และแยกรูปแบบได้ใกล้เคียงหนูปกติ รวมถึงปลูกถ่ายได้สำเร็จในลิงแม็กแคก ทำให้เห็นว่ากระบวนรักษานี้จะมีความปลอดภัย และยังมีความสามารถในการตรวจจับคลื่นแสงใกล้อินฟราเรดระยะ 1,550 นาโนเมตรและยังเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก
ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาที่ “ลดการเปิดแผลหรือการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อให้น้อยที่สุด” แต่ยังฟื้นฟูการมองเห็นในที่แสงน้อยได้ดี โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคตารุนแรง และคาดว่าจะนำไปสู่การทดลองในมนุษย์ในอนาคต ที่จะพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีฟื้นฟูการมองเห็นที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เพราะหากอุปกรณ์นี้สามารถใช้งานในมนุษย์ได้จริง "จอประสาทตาเทียม" จะกลายเป็นทางรอดใหม่ให้ผู้ป่วยที่หมดหวังกับการรักษาแบบเดิม ที่เปลี่ยนชีวิตของผู้คนให้มองเห็นได้อีกครั้ง
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
SHANGHAIจอประสาทตาเทียมผู้สูญเสียทางการมองเห็นGlobaltechTechmovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement