
พอพูดถึงโรคไตเรื้อรัง หลายคนคงนึกถึงภาพของผู้ป่วยที่เดินทางไปโรงพยาบาลสัปดาห์ละหลายครั้ง เพื่อรับการฟอกเลือดจากเครื่องไตเทียม ที่ใช้เวลานานและยังส่งผลกระทบต่อคนดูแลในด้านรายได้ ที่อาจต้องลาหยุดงาน เพื่อพาผู้ป่วยไปรักษา
ยิ่งครอบครัวที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล ความไม่สะดวกเหล่านี้ยิ่งทวีความลำบากมากขึ้น ทั้งเรื่องระยะทาง ค่าใช้จ่าย ความเสี่ยง และความเครียดที่สะสมทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล
ปัจจุบัน การรักษาโรคไตวายเรื้อรังมีอยู่ 3 วิธีหลัก ได้แก่ การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม, การล้างไตทางช่องท้อง และการปลูกถ่ายไต โดยแต่ละวิธีต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ผู้ดูแล ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย
เทคโนโลยีที่ “สะดวกและรวดเร็ว” อาจเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาได้มากขึ้น
ตัวอย่างเคส ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ช่วงแรกแพทย์เสนอให้ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม แต่พบว่าการเดินทางไปศูนย์ฟอกไตสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง แม้จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาโดยตรง แต่ค่าเดินทางต่อครั้งก็สูงถึงราว 200 – 300 บาท กลายเป็นภาระที่ต้องแบกรับของผู้ดูแล
ซึ่งก็มีทางเลือกใหม่ที่แพทย์แนะนำต่อ คือ “การล้างไตทางช่องท้องด้วยตนเอง” ซึ่งเป็นการบำบัดที่สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อทำเส้นเลือดเทียมเหมือนการฟอกเลือด ช่วยให้ผู้ป่วยมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การล้างไตนั้นง่ายและสะดวกขึ้น คือการใช้เครื่อง “เครื่องล้างไตทางช่องท้องอัตโนมัติ (APD)”ที่สามารถตั้งโปรแกรมล้างไตให้ทำงานได้เองในช่วงกลางคืนขณะผู้ป่วยนอนหลับ ส่วนช่วงเช้าผู้ป่วยก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ โดยไม่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลา
สิ่งนี้ไม่ได้แค่เสริมความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทั้งตัวผู้ป่วยเอง และครอบครัวอีกด้วย โดยเฉพาะในกรณีของผู้สูงอายุที่ต้องการพักผ่อน การมีเครื่องนี้จะลดความกังวลของผู้ดูแล และความเหนื่อยล้าของผู้ป่วยได้ดี
นอกจากนี้ เครื่อง APD ยังอยู่ภายใต้สิทธิ “30 บาทรักษาทุกที่” หมายความว่าผู้ป่วยที่มีสิทธิในระบบนี้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับบริการได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ชี้ให้เห็นว่าเมื่อ “นวัตกรรมทางการแพทย์” และ “ระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุม” ได้ถูกนำมาใช้ร่วมกัน จึงสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง ที่เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษา ลดภาระผู้ดูแล แต่ยังคงประสิทธิภาพได้มากขึ้นจากเดิม
ยิ่งครอบครัวที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล ความไม่สะดวกเหล่านี้ยิ่งทวีความลำบากมากขึ้น ทั้งเรื่องระยะทาง ค่าใช้จ่าย ความเสี่ยง และความเครียดที่สะสมทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล
ปัจจุบัน การรักษาโรคไตวายเรื้อรังมีอยู่ 3 วิธีหลัก ได้แก่ การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม, การล้างไตทางช่องท้อง และการปลูกถ่ายไต โดยแต่ละวิธีต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์ผู้ดูแล ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย
เทคโนโลยีที่ “สะดวกและรวดเร็ว” อาจเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาได้มากขึ้น
ตัวอย่างเคส ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ช่วงแรกแพทย์เสนอให้ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม แต่พบว่าการเดินทางไปศูนย์ฟอกไตสัปดาห์ละ 3 – 4 ครั้ง แม้จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาโดยตรง แต่ค่าเดินทางต่อครั้งก็สูงถึงราว 200 – 300 บาท กลายเป็นภาระที่ต้องแบกรับของผู้ดูแล
ซึ่งก็มีทางเลือกใหม่ที่แพทย์แนะนำต่อ คือ “การล้างไตทางช่องท้องด้วยตนเอง” ซึ่งเป็นการบำบัดที่สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อทำเส้นเลือดเทียมเหมือนการฟอกเลือด ช่วยให้ผู้ป่วยมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การล้างไตนั้นง่ายและสะดวกขึ้น คือการใช้เครื่อง “เครื่องล้างไตทางช่องท้องอัตโนมัติ (APD)”ที่สามารถตั้งโปรแกรมล้างไตให้ทำงานได้เองในช่วงกลางคืนขณะผู้ป่วยนอนหลับ ส่วนช่วงเช้าผู้ป่วยก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ โดยไม่ต้องมีคนดูแลตลอดเวลา
สิ่งนี้ไม่ได้แค่เสริมความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทั้งตัวผู้ป่วยเอง และครอบครัวอีกด้วย โดยเฉพาะในกรณีของผู้สูงอายุที่ต้องการพักผ่อน การมีเครื่องนี้จะลดความกังวลของผู้ดูแล และความเหนื่อยล้าของผู้ป่วยได้ดี
นอกจากนี้ เครื่อง APD ยังอยู่ภายใต้สิทธิ “30 บาทรักษาทุกที่” หมายความว่าผู้ป่วยที่มีสิทธิในระบบนี้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับบริการได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ชี้ให้เห็นว่าเมื่อ “นวัตกรรมทางการแพทย์” และ “ระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุม” ได้ถูกนำมาใช้ร่วมกัน จึงสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง ที่เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษา ลดภาระผู้ดูแล แต่ยังคงประสิทธิภาพได้มากขึ้นจากเดิม
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
เครื่องล้างไตทางช่องท้องอัตโนมัติAPDโรคไต30บาทรักษาทุกที่LocaltechTechMovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การแพทย์
“จอประสาทตาเทียม” ฟื้นฟูการมองเห็นให้ผู้พิการทางสายตา


การแพทย์
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นำทีมสู่ Smart Hospital มาตรฐานใหม่การแพทย์ 4.0


การแพทย์
ลดสแกน งดเสี่ยงรังสี ก็บ่งชี้อัลไซเมอร์ ?


การแพทย์
ลิ่มเลือดไม่หลุด นวัตกรรมใหม่ช่วยหมุน “ ลดอุดตัน ”
