
ไทยตั้งเป้าขยายโครงการ “กลุ่มดาวเทียมสำรวจโลก” จากปัจจุบันที่มี 2 ดวง (THEOS‑1 และ THEOS‑2) ให้เพิ่มเป็นอีก 12 ดวง ภายใน 6 ปีหลังได้รับอนุมัติงบ รวมงบประมาณราว 20,000 ล้านบาท
ทำไมไทยต้องมีดาวเทียมของตัวเอง
ปัจจุบันประเทศไทยยังต้องพึ่งพาภาพดาวเทียมจากต่างประเทศ ทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมีข้อจำกัดหลายด้าน ทำให้การนำข้อมูลมาใช้ไม่ต่อเนื่องและไม่ทันต่อสถานการณ์ เป้าหมายสำคัญของโครงการนี้ คือการทำให้ไทยมี ระบบดาวเทียมสำรวจโลกของตัวเอง ที่สามารถผลิตข้อมูลภูมิสารสนเทศได้อย่างสม่ำเสมอและรวดเร็ว ทั้งภาพถ่ายพื้นที่ ภัยพิบัติ สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงข้อมูลด้านเกษตรกรรม ลดการพึ่งพาต่างประเทศ และแก้ปัญหาข้อจำกัดของดาวเทียมเดิม เช่น
ถ่ายได้เฉพาะกลางวัน ทะลุเมฆไม่ได้ หรือเก็บภาพไม่ถี่พอต่อความต้องการของภาครัฐและเอกชนหรือพูดง่ายๆเราต้องมีอธิปไตยด้านข้อมูลเป็นของตัวเอง
แล้วการลงทุน 2 หมื่นล้าน คุ้มไหม?
หากมองว่าโครงการนี้มีไว้เพียงเพื่อ “พยากรณ์อากาศ” ก็อาจดูไม่คุ้มค่า เพราะข้อมูลลักษณะนั้นซื้อจากต่างประเทศได้อยู่แล้ว แต่หากมองในมิติของการเป็นเจ้าของข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จและสามารถควบคุมอธิปไตยของข้อมูลภายในประเทศ เพื่อใช้ในการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อย
หากประเทศไทยมีระบบข้อมูลดาวเทียมของตัวเอง เราจะสามารถเข้าถึงและนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อใช้งานในหลายด้าน เช่น ความมั่นคง การคาดการณ์เหตุการณ์สำคัญ การบริหารจัดการภัยพิบัติ เกษตรกรรม และมลพิษทางอากาศ ได้อย่างแม่นยำ และทันต่อสถานการณ์มากกว่าเดิม
ยกตัวอย่างว่าจากเดิมที่ต้องรอข้อมูลจากต่างประเทศและมีข้อจำกัดด้านความถี่ ความชัด หรือเวลาที่เข้าถึงข้อมูล กลายเป็นการมีข้อมูลเรียลไทม์ที่ไทยควบคุมเอง ใช้เพื่อวิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้ทันที
นอกจากนี้ หากข้อมูลบางส่วนถูกเปิดเป็น “Open Data” ให้ภาคเอกชนสามารถนำไปต่อยอด ก็จะยิ่งช่วยผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้ก้าวไปข้างหน้า ขณะเดียวกันยังส่งเสริมการจ้างงานบุคลากรไทย และพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีภายในประเทศด้วย
และที่สำคัญที่สุด คือ ไทยจะ “ไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติ” ในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญอีกต่อไป ระบบดาวเทียมนี้ถือเป็นการสร้าง ระบบปิดที่ประเทศไทยเป็นเจ้าของ
100% สามารถถือครอง ควบคุม และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงด้านข้อมูลในระยะยาว
ลดความเสี่ยงจากการถูกมองเห็น ควบคุม หรือปิดกั้นข้อมูลสำคัญจากภายนอก ซึ่งถือเป็นการยกระดับความมั่นคงด้านข้อมูลของชาติในระยะยาว
ท้ายที่สุด ต้องติดตามต่อว่าโครงการนี้จะเดินหน้าไปอย่างไร และสามารถสร้างผลลัพธ์ให้ประเทศอย่างมีนัยสำคัญได้หรือไม่
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่างประเทศ
ต่างประเทศ
ต่างประเทศ