
อัลไซเมอร์ ภัยเงียบที่ค่อยๆ ลบความทรงจำและตัวตนของผู้ป่วย ที่ลุกลามอย่างช้าๆ และมักเริ่มแสดงอาการในผู้ป่วยที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
อะไมลอยด์ คราบโปรตีนเล็กๆ ในสมอง ที่อาจเป็นตัวบอกว่า "อัลไซเมอร์" กำลังเริ่มคืบคลาน การตรวจหาคราบเหล่านี้ด้วย PET Scan ทำให้แพทย์รู้ได้ล่วงหน้าหลายปีก่อนที่อาการจะเริ่มปรากฏ แต่การตรวจนี้ราคาแพง และเสี่ยงรับรังสี จึงไม่ใช่ทางเลือกสำหรับคนส่วนใหญ่ ทั้งที่มันอาจช่วยให้รักษาได้ทันหากรู้เร็ว
เมื่อเลือดก็บ่งชี้ความเสี่ยงอัลไซเมอร์ได้ โดยไม่ต้องสแกน ไม่ต้องเสี่ยงรังสี ?
ปัจจุบัน มีทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้การคัดกรองผู้ป่วยอัลไซเมอร์ง่ายขึ้น นั่นคือ “การตรวจเลือด” โดยใช้ชุดตรวจ “Lumipulse G pTau217/β‑Amyloid 1‑42 Plasma Ratio” โดยวัดระดับของโปรตีน 2 ชนิดในเลือด ที่มีส่วนทำให้เกิดคราบอะไมลอยด์ในสมอง ซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาที ตั้งแต่การเจาะเลือดไปจนถึงการวินิจฉัยโรคเท่านั้น
โดยพบว่าให้ผลที่แม่นยำเกือบ 92% เมื่อเทียบกับการตรวจ PET หรือการเจาะไขสันหลัง ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ เมื่อ 16 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา
มั่นใจได้แค่ไหนว่าการตรวจวิธีนี้ “แม่นยำ” และเชื่อถือได้ ?
การตรวจหาอัลไซเมอร์ด้วยเลือดก็มีโอกาสผิดพลาดได้เช่นกัน อย่างผู้ที่มีโรคไต หรือมีปัญหานอนกรนรุนแรง อาจมีสารอะไมลอยด์ในสมองเหมือนกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นโรคนี้
แพทย์จึงมักตรวจควบคู่กับการสอบถามประวัติและตรวจเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย แม้ว่าจะได้รับการอนุมัติจาก FDA แล้ว แต่การนำไปใช้จริง ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและการประเมินผลอยู่
ซึ่งหากวิจัยนี้เสร็จสมบูรณ์และเริ่มใช้ได้จริงแล้ว อาจเป็นประโยชน์กับประเทศที่เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในไทยที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และพบผู้ป่วยสมองเสื่อมมากขึ้นปีละกว่า 1 แสนราย การตรวจที่เข้าถึงง่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย อาจช่วยให้คนกลุ่มนี้ได้รับการวินิจฉัยและการดูแลได้เร็วขึ้น
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว