
ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเกือบ 15 ล้านคน และกว่า 87% เกิดจากลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดในสมอง จนสมองขาดออกซิเจน เป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้
แต่การรักษาต้องแข่งกับเวลา เพราะยิ่งเอาลิ่มเลือดออกได้เร็ว สมองก็ยิ่งเสียหายน้อยลง ผู้ป่วยก็จะมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยีที่สามารถเอาลิ่มเลือดออกได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกมีเพียง 50% และอีก 15% ไม่สามารถนำลิ่มเลือดออกได้เลย
นวัตกรรมใหม่เพิ่มโอกาสสำเร็จในการกำจัดลิ่มเลือด มีจริง ?
เทคโนโลยีใหม่ชื่อ milli-spinner ช่วยกำจัดลิ่มเลือดได้ดีขึ้นกว่าเทคนิคเดิมถึง 2 เท่า พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในสหรัฐอเมริกา เพิ่มโอกาสรักษาโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดอุดตันในปอด และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับลิ่มเลือดได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
Milli-Spinner เป็นอุปกรณ์ท่อกลวงขนาดเล็กที่หมุนได้ มีครีบและรอยแยกช่วยสร้างแรงดูด และแรงบิดเพื่อดึงลิ่มเลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพ
ต่างจากวิธีเดิมที่ใช้แรงดึงลิ่มเลือดออก ซึ่งบางครั้งทำให้ลิ่มเลือดแตกกระจายไปอุดตันส่วนอื่นของร่างกาย แต่วิธีใหม่นี้ใช้การ “หมุนเบา ๆ” ให้ลิ่มเลือดจับตัวกันแน่นเป็นก้อน แล้วค่อยนำออกอย่างปลอดภัย ส่งผลให้เลือดไม่หลุดไปอุดจุดอื่น เพราะถ้าลิ่มเลือดแตกหรือมีมากเกินไป อาจเข้าไปอุดหลอดเลือดในสมอง หัวใจ หรือปอด ที่อันตรายถึงชีวิตได้
จากการทดลองในสัตว์พบว่า Milli-Spinner สามารถลดปริมาตรลิ่มเลือดได้ 95% และได้ผลลัพธ์ดีกว่าอุปกรณ์ดูดลิ่มเลือดแบบเดิมหลายเท่า ช่วยให้เลือดไหลเวียนกลับมาได้เกือบเต็มที่หลังรักษา
โดยนักวิจัยวางแผนจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้เข้าสู่การทดลองในคน ที่คาดว่าจะนำมาใช้จริงในโรงพยาบาลได้เร็วๆ นี้ ซึ่งนอกจากโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปใช้รักษาโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลิ่มเลือด เช่น โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดอุดตันในปอด หรือแม้แต่เศษนิ่วในไต
เพิ่มโอกาสฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดอุดตันได้อย่างมาก เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
อย่างไรก็ตาม แม้มีประสิทธิภาพสูง และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มาก แต่ยังต้องรอดูผลการทดลองในคนจริงต่อไป เพื่อยืนยันความปลอดภัยในประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริงในโรงพยาบาล เพราะบางครั้งเทคโนโลยีที่ดีในห้องทดลอง “อาจมีข้อจำกัดบางอย่าง” เมื่อใช้จริงในคน
แต่การรักษาต้องแข่งกับเวลา เพราะยิ่งเอาลิ่มเลือดออกได้เร็ว สมองก็ยิ่งเสียหายน้อยลง ผู้ป่วยก็จะมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยีที่สามารถเอาลิ่มเลือดออกได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกมีเพียง 50% และอีก 15% ไม่สามารถนำลิ่มเลือดออกได้เลย
นวัตกรรมใหม่เพิ่มโอกาสสำเร็จในการกำจัดลิ่มเลือด มีจริง ?
เทคโนโลยีใหม่ชื่อ milli-spinner ช่วยกำจัดลิ่มเลือดได้ดีขึ้นกว่าเทคนิคเดิมถึง 2 เท่า พัฒนาโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในสหรัฐอเมริกา เพิ่มโอกาสรักษาโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดอุดตันในปอด และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับลิ่มเลือดได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
Milli-Spinner เป็นอุปกรณ์ท่อกลวงขนาดเล็กที่หมุนได้ มีครีบและรอยแยกช่วยสร้างแรงดูด และแรงบิดเพื่อดึงลิ่มเลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพ
ต่างจากวิธีเดิมที่ใช้แรงดึงลิ่มเลือดออก ซึ่งบางครั้งทำให้ลิ่มเลือดแตกกระจายไปอุดตันส่วนอื่นของร่างกาย แต่วิธีใหม่นี้ใช้การ “หมุนเบา ๆ” ให้ลิ่มเลือดจับตัวกันแน่นเป็นก้อน แล้วค่อยนำออกอย่างปลอดภัย ส่งผลให้เลือดไม่หลุดไปอุดจุดอื่น เพราะถ้าลิ่มเลือดแตกหรือมีมากเกินไป อาจเข้าไปอุดหลอดเลือดในสมอง หัวใจ หรือปอด ที่อันตรายถึงชีวิตได้
จากการทดลองในสัตว์พบว่า Milli-Spinner สามารถลดปริมาตรลิ่มเลือดได้ 95% และได้ผลลัพธ์ดีกว่าอุปกรณ์ดูดลิ่มเลือดแบบเดิมหลายเท่า ช่วยให้เลือดไหลเวียนกลับมาได้เกือบเต็มที่หลังรักษา
โดยนักวิจัยวางแผนจะพัฒนาเทคโนโลยีนี้เข้าสู่การทดลองในคน ที่คาดว่าจะนำมาใช้จริงในโรงพยาบาลได้เร็วๆ นี้ ซึ่งนอกจากโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปใช้รักษาโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับลิ่มเลือด เช่น โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดอุดตันในปอด หรือแม้แต่เศษนิ่วในไต
เพิ่มโอกาสฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดอุดตันได้อย่างมาก เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
อย่างไรก็ตาม แม้มีประสิทธิภาพสูง และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มาก แต่ยังต้องรอดูผลการทดลองในคนจริงต่อไป เพื่อยืนยันความปลอดภัยในประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริงในโรงพยาบาล เพราะบางครั้งเทคโนโลยีที่ดีในห้องทดลอง “อาจมีข้อจำกัดบางอย่าง” เมื่อใช้จริงในคน
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
MilliSpinnerหลอดเลือดสมองสหรัฐGlobaltechTechMovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement