
หลายคนอาจคิดว่า “โรคเนื้องอกในสมอง” เป็นเรื่องไกลตัว แต่ที่จริงสามารถเกิดได้กับทุกช่วงวัย และยังไม่มีสาเหตุการเกิดเนื้องอกในสมองที่แน่ชัด ถ้าไม่รีบรักษาอาจทำให้เกิดความรุนแรง และส่งผลต่อชีวิตต่อไปได้
ฉะนั้น การวินิจฉัยที่รวดเร็ว และแม่นยำจึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งการตรวจในปัจจุบัน จะใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือใช้เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อให้ทราบถึงขนาดและตำแหน่งเนื้องอก รวมถึงการตรวจด้วยเครื่องเพทซีที สแกน (PET/CT Scan) ที่ดูการแพร่กระจายหรือที่มาของเนื้องอก และยังมีการตัดชิ้นเนื้อมาตรวจ (Biposy) ที่ช่วยให้วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ
แต่การตรวจวินิจฉัยที่กล่าวมานั้นมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่ได้อยู่ในแผนการตรวจสุขภาพทั่วไป ที่ต้องพบเเพทย์โดยเฉพาะ เพื่อวินิจฉัยว่าควรตรวจด้วยวิธีการเหล่านั้นหรือไม่
● จะดีแค่ไหนหากมี “นวัตกรรมช่วยให้การตรวจคัดกรอง” เข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น ?
ผศ.ดร.กรพรหม พิกุลแก้ว วิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้พัฒนานวัตกรรม AI ทางการแพทย์ ที่สามารถตรวจหาเนื้องอกในสมอง จากภาพ x-ray หรือ MRI โดยใช้ Deep Learning หรือ AI ที่เรียนรู้ข้อมูลจำนวนมากได้เอง ทำให้เก่งในการแยกแยะ และตัดสินใจเรื่องยากได้
โดยทำงานร่วมกับ Explainable AI ชนิด Gradient-Weighted Class Activation Mapping (Grad-CAM) หรือ AI ที่ช่วยระบุส่วนสำคัญของภาพ x-ray หรือ MRI ทำให้แพทย์วินิจฉัยได้ดีขึ้น เป็นหนึ่งในคนแรกๆ ของไทย ที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ ซึ่งการทำงานร่วมกันของทั้งสองระบบนี้ จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำถึง 97%
การวิจัยครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การวินิจฉัยโรคเนื้องอกในสมอง ได้แม่นยำและรวดเร็ว ที่ลดค่ารักษาให้กับผู้ป่วยได้มากจากเดิม ซึ่งถ้าอนาคตมีการพัฒนาเพิ่ม และนำไปใช้กับระบบสุขภาพในวงกว้าง
จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในด้านสุขภาพได้มากขึ้น
ฉะนั้น การวินิจฉัยที่รวดเร็ว และแม่นยำจึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งการตรวจในปัจจุบัน จะใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือใช้เครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อให้ทราบถึงขนาดและตำแหน่งเนื้องอก รวมถึงการตรวจด้วยเครื่องเพทซีที สแกน (PET/CT Scan) ที่ดูการแพร่กระจายหรือที่มาของเนื้องอก และยังมีการตัดชิ้นเนื้อมาตรวจ (Biposy) ที่ช่วยให้วินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ
แต่การตรวจวินิจฉัยที่กล่าวมานั้นมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่ได้อยู่ในแผนการตรวจสุขภาพทั่วไป ที่ต้องพบเเพทย์โดยเฉพาะ เพื่อวินิจฉัยว่าควรตรวจด้วยวิธีการเหล่านั้นหรือไม่
● จะดีแค่ไหนหากมี “นวัตกรรมช่วยให้การตรวจคัดกรอง” เข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น ?
ผศ.ดร.กรพรหม พิกุลแก้ว วิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้พัฒนานวัตกรรม AI ทางการแพทย์ ที่สามารถตรวจหาเนื้องอกในสมอง จากภาพ x-ray หรือ MRI โดยใช้ Deep Learning หรือ AI ที่เรียนรู้ข้อมูลจำนวนมากได้เอง ทำให้เก่งในการแยกแยะ และตัดสินใจเรื่องยากได้
โดยทำงานร่วมกับ Explainable AI ชนิด Gradient-Weighted Class Activation Mapping (Grad-CAM) หรือ AI ที่ช่วยระบุส่วนสำคัญของภาพ x-ray หรือ MRI ทำให้แพทย์วินิจฉัยได้ดีขึ้น เป็นหนึ่งในคนแรกๆ ของไทย ที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ ซึ่งการทำงานร่วมกันของทั้งสองระบบนี้ จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำถึง 97%
การวิจัยครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การวินิจฉัยโรคเนื้องอกในสมอง ได้แม่นยำและรวดเร็ว ที่ลดค่ารักษาให้กับผู้ป่วยได้มากจากเดิม ซึ่งถ้าอนาคตมีการพัฒนาเพิ่ม และนำไปใช้กับระบบสุขภาพในวงกว้าง
จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในด้านสุขภาพได้มากขึ้น
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มชเนื้องอกในสมองAIHealthtechLocaltechTechMovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การแพทย์
“จอประสาทตาเทียม” ฟื้นฟูการมองเห็นให้ผู้พิการทางสายตา


การแพทย์
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นำทีมสู่ Smart Hospital มาตรฐานใหม่การแพทย์ 4.0


การแพทย์
ลดสแกน งดเสี่ยงรังสี ก็บ่งชี้อัลไซเมอร์ ?


การแพทย์
ลิ่มเลือดไม่หลุด นวัตกรรมใหม่ช่วยหมุน “ ลดอุดตัน ”
