
เมื่อความต้องการประมวลผลข้อมูลและงาน AI พุ่งสูงแบบก้าวกระโดด ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกกำลังเผชิญโจทย์ใหญ่ว่า จะรับมือการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างไร โดยไม่เพิ่มภาระให้กับโลก
ล่าสุด Gartner ออกรายงานเตือนว่า ภายใน 5 ปี ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกอาจใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น “เกือบ 2 เท่า” จากดีมานด์ด้าน AI, Cloud และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
ทำไมการใช้ไฟถึงพุ่งขึ้นขนาดนี้?
AI-Optimized Servers อาจเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้ Gartner ระบุว่าแม้เซิร์ฟเวอร์ทั่วไปและโครงสร้างพื้นฐานเดิมจะใช้งานพลังงานในระดับหนึ่ง แต่ AI-Optimized Servers ที่ออกแบบหรือปรับแต่งมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ กำลังผลักให้การบริโภคพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 93 TWh ในปี 2568 เป็น 432 TWh ภายในปี 2573
ส่วนแบ่งพลังงานของ AI-Servers เพิ่มอย่างก้าวกระโดด ในปี 2568 เซิร์ฟเวอร์รองรับ AI คาดว่ากินไฟคิดเป็น 21% ของพลังงานทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ แต่ในอีก 5 ปี ตัวเลขนี้อาจเพิ่มเป็น 44% และนักวิเคราะห์ประเมินว่า AI-Servers จะรับผิดชอบถึง 64% ของพลังงานที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดในดาต้าเซ็นเตอร์ปริมาณการใช้ไฟฟ้ารวมพุ่งจาก 448 TWh เป็น 980 TWh
Gartner คาดว่า พลังงานไฟฟ้าที่ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกใช้ในปี 2568 อยู่ที่ 448 TWh และถ้าดีมานด์เติบโตตามคาด ภายในปี 2573 ตัวเลขจะพุ่งไปอยู่ที่ 980 TWh แทบจะเพิ่มขึ้นเป็น “สองเท่า” จากปัจจุบัน
ผลกระทบอะไรที่กำลังจะตามมา?
ต้นทุนพลังงานและค่าใช้จ่ายดำเนินงานพุ่งสูง ดาต้าเซ็นเตอร์และผู้ให้บริการคลาวด์อาจเผชิญต้นทุนด้านไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
(โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ไฟฟ้าผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล) อาจส่งผลไปถึงราคาบริการที่ผู้ใช้งานต้องจ่าย
ปัญหาไฟฟ้า-พลังงานในระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ หากมีศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่หลายแห่งขยายพร้อมกัน พร้อมกับความต้องการ
ใช้ไฟฟ้าที่พุ่ง อาจกระทบต่อระบบไฟฟ้ารวมของประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่โครงข่ายไฟฟ้าอาจยังไม่มีความยืดหยุ่นพอ
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ถ้ายังใช้พลังงานฟอสซิลเป็นหลัก การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีพลังงานสะอาดเข้ามาช่วย จะยิ่งทำให้การปล่อยคาร์บอนสูงขึ้น และซ้ำเติมปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ
ดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ต้องเดินหน้าเพื่อแก้เกมแล้วหรือไม่?
การปรับตัวสู่พลังงานสะอาดและการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ กลายเป็นภารกิจสำคัญที่ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ต้องเร่งขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
ในอนาคตดาต้าเซ็นเตอร์อาจต้องพึ่งพาพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม หรือไฮโดรเจนสีเขียวมากขึ้น แทนการใช้พลังงานฟอสซิลแบบเดิมๆเพราะนอกจากลดการปล่อยคาร์บอนแล้ว ยังช่วยทำให้ต้นทุนพลังงานมีเสถียรภาพขึ้นในระยะยาว
ยุคของ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ได้เป็นแค่โอกาสทางเทคโนโลยีและธุรกิจแต่ยังมาพร้อมกับภาระด้านพลังงานที่อาจกระทบโครงสร้างพื้นฐานพลังงานทั่วโลก ถ้าเราเดินหน้าขยายเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ต่อไปโดยไม่วางแผนเรื่องพลังงาน ทั้งแหล่งไฟฟ้าและระบบรองรับต่างๆ ก็อาจกลายเป็นกับดักด้านพลังงานที่แก้ไขได้ยากในอนาคต
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทย
ต่างประเทศ
ไทย
ไทย