กัมพูชาเตรียมปิดกั้นประชาชน สื่อนอกรายงานรื้อใช้ National Internet Gateway

สังคม

กัมพูชาเตรียมปิดกั้นประชาชน? สื่อนอกรายงานรื้อใช้ “National Internet Gateway”

Clock Icon

22 ตุลาคม 2568

แชร์ :

ช่วงนี้กัมพูชากำลังสั่นคลอนจากหลายเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ประเทศที่ติดลบจากเหตุทลายรังสแกมเมอร์โดยประเทศเกาหลี ที่ออกสืบค้นรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์งัดออกสื่อทั่วโลก

ปัจจัยเหล่านี้กำลังลดทอนอำนาจของรัฐบาล และอาจทำให้การควบคุมพลเมืองมีปัญหาได้ ซึ่ง Nikkei Asia ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเอกสารภายในรัฐบาลกัมพูชาว่า รัฐบาลมีแผนเริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลักของศูนย์เกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ (National Internet Gateway: NIG) ในปีหน้า เพื่อรวมศูนย์การสื่อสารออนไลน์ของประเทศ

เมื่ออำนาจสั่นคลอน เลยต้องเพิ่มการควบคุมเพื่อลดปัญหาภายในประเทศ

โครงการที่หยุดชะงักไปนาน ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาใช้ใหม่ โดยเคยจะประกาศใช้ในช่วงต้นปี 2022 แต่ถูกชะลอไปแบบไม่ทราบสาเหตุ ผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาเตือนว่าระบบนี้อาจเพิ่มอำนาจให้กับรัฐฯ ในการควบคุมและตรวจสอบกิจกรรมออนไลน์ของประชาชนได้มากขึ้น

เพราะระบบนี้จะเป็นศูนย์รวมเส้นทางข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของประเทศ ผ่านเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง เพื่อให้รัฐบาลสามารถบล็อกเว็บไซต์ ควบคุมเส้นทางข้อมูล และตรวจสอบการสื่อสารออนไลน์ได้อย่างละเอียด

แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตจากผู้เชี่ยวชาญว่า ระบบนี้ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความซับซ้อนสูง แต่กัมพูชายังไม่มีศักยภาพที่ทำได้เองโดยตรง

ซึ่งสอดคล้องกับรายละเอียดเอกสารว่าโครงการนี้จะใช้งบเริ่มต้น 11.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับก่อสร้างและค่าแรงเจ้าหน้าที่ในศูนย์บริหาร และอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท Huawei ของจีน และพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อจัดหาทุน

แต่พอสื่อติดต่อหาบริษัทต้นสังกัด กลับได้รับคำตอบว่า “Huawei Cambodia ไม่ได้ให้ทุนหรือบริการใด ๆ กับโครงการ National Internet Gateway และไม่ได้มีแผนเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

ปิดกั้นเพื่อควบคุมการรับรู้ จะดีจริง หรือเป็นแค่ระเบิดเวลา?

ที่จริงแล้วคงการันตีไม่ได้ว่าระบบนี้จะถูกนำมาใช้ และทำได้สำเร็จหรือไม่ เพราะมีเรื่องของความเชี่ยวชาญด้านบุคลากร และขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีร่วมด้วย ก็อาจทำให้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

หากรัฐบาลกัมพูชาจะใช้ระบบควบคุมแบบจีน เรื่องนี้อาจไม่ได้เป็นผลดีต่อภาพรวมประเทศเสมอไป แม้จุดประสงค์ของการใช้คือเพื่อป้องกันข้อมูลที่อาจส่งเสริมความไม่สงบหรือความขัดแย้งในสังคมเหมือนกับจีนก็จริง

แต่เป้าหมายของการบริหารยังแตกต่างกัน เพราะจีนมีการควบคุมสื่อไปพร้อม ๆ กับการส่งเสริมการพัฒนาประเทศ เพื่อทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางอำนาจเท่านั้น

สวนทางกับกัมพูชาที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มักใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อรักษาฐานอำนาจในประเทศ โดย โทบี เมนเดล ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชน (Centre for Law and Democracy) ซึ่งเคยให้คำปรึกษารัฐบาลกัมพูชาในกฎหมายอินเทอร์เน็ตบางฉบับ ได้บอกว่า แนวคิดเรื่องเกตเวย์อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มต้นทุนให้ผู้ใช้งานและทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลง ขัดกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของกัมพูชามาก

แปลว่าหากสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง กัมพูชาอาจไม่เพียงสูญเสียรายได้จากแรงงานและการท่องเที่ยว แต่ยังเสี่ยงต่อการล่มสลายทางการเมืองจากการใช้ระบบปิดก็ไม่ต่างจากการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน และการติดต่อสื่อสารที่เป็นไปได้ยากขึ้นก็อาจกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง