
เด็กจบใหม่หลายคนอาจกำลังเตรียมรับปริญญา และก้าวเข้าสู่ Step ต่อไปของชีวิต นั่นคือ “โลกของการทำงาน” แต่รู้หรือไม่ ว่าในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา มีจำนวนเด็กจบใหม่ว่างงานกว่า 132,000 คน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นายจ้างกว่า 89% ระบุว่าเด็กจบใหม่ยังไม่พร้อมทำงานเต็มรูปแบบ เพราะหลายตำแหน่งยังต้องการทักษะและประสบการณ์ในการทำงานจริง ทำให้ในสถานการณ์นี้ ประกาศรับสมัครงานที่มีคีย์เวิร์ดว่า “ยินดีรับผู้ไม่มีประสบการณ์” จึงกลายเป็นสิ่งล่อตาล่อใจ
ช่องว่างของความหวัง กลายเป็นทำเลทองของมิจฉาชีพ
LinkedIn ออกมาเตือนเองเลยว่า งานปลอมและประกาศหลอกลวงกำลังเพิ่มขึ้น เพราะมิจฉาชีพสร้างประกาศงานเงินเดือนสูงแต่ไม่ต้องมีประสบการณ์ หรือสร้างโปรไฟล์ผู้จ้างปลอมเพื่อหลอกลวงผู้สมัคร ทำให้ผู้สมัครเสี่ยงถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือชักชวนไปทำงานที่ไม่จริง เพราะยิ่งคนต้องการงานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
โดยกรมการจัดหางานเผยว่าในปี 67 มีผู้หางานถูกหลอกกว่า 608 ราย รวมความเสียหายกว่า 44 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกของปี 68 มี 53 ราย เสียเงินมากกว่า 6 ล้านบาท ที่น่ากลัวคือตอนนี้อาชญากรเหล่านี้ ใช้ AI ช่วยสร้างเครื่องมือหลอกลวงให้แนบเนียนมากขึ้น ทั้งแอบอ้างชื่อแพลตฟอร์มหางาน ส่งข้อความผ่าน SMS หรือโซเชียลมีเดียเพื่อหลอกล่อผู้สมัครให้เชื่อว่านี่คือ “โอกาสงานจริง” โดยจะเน้นที่งานขาย ธุรการ บัญชี และสื่อโฆษณา ซึ่งเป็นสายงานที่เด็กจบใหม่สมัครมากที่สุด
โดย SEEK บริษัทแม่ของ Jobsdb และ Jobstreet ระบุว่าในช่วงเดือน ก.ค. 67– มิ.ย. 68 ได้สแกนประกาศงานกว่า 4.3 ล้านรายการทั่วภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก และส่งต่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ซึ่งได้ปิดบัญชีผู้จ้างที่น่าสงสัยกว่า 650 บัญชี และลบประกาศเสี่ยงกว่า 2,800 รายการ รวมถึงรับรายงานประกาศผิดปกติมากกว่า 22,000 ครั้งจากผู้สมัคร
แล้วจะเอาตัวรอดจากงานปลอมพวกนี้ได้ยังไงบ้าง ?
ถ้าเจองานที่เงินดีเกินจริงหรือไม่ต้องมีประสบการณ์เลย ให้ตั้งข้อสงสัยทันที จากนั้นเช็กโปรไฟล์ผู้ติดต่อและตัวบริษัทแบบละเอียด ใช้ข้อมูลจากแหล่งภายนอกช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือ ห้ามส่งข้อมูลส่วนตัวหรือโอนเงินก่อนเด็ดขาด และถ้าพบประกาศหรือโปรไฟล์ที่ดูผิดปกติให้กด Report ผ่านแพลตฟอร์มที่สมัครทันที ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับเราได้มากขึ้น
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่างประเทศ
ต่างประเทศ
ต่างประเทศ
ต่างประเทศ