
พลังงานสะอาดของไทยกำลังถูกผลักดันจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป้าหมายลดไฟฟ้าครัวเรือนให้กับประชาชน โดยรัฐบาลได้มีการประกาศเลื่อนเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ให้เร็วขึ้น 15 ปี จากปี 2065 เป็นปี 2050
กลายเป็นที่จับตาของวงการพลังงาน เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของพลังงานไฟฟ้าสะอาด ที่จะช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้ ซึ่ง รมว.พลังงานมีการออกมาบอกถึง 4 โครง Quick Big win ที่เตรียมลุยให้สำเร็จใน 4 เดือนนี้
ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน และลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้น ด้วยแผนโครงการที่ถูกวางไว้ดังนี้
โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ต่อชุมชน มีมูลค่าการลงทุนที่มากกว่า 30,000 ล้านบาท จะส่งผลทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 1,600 ตำแหน่ง
ที่ชุมชนจะได้ใช้ไฟผลิตเองในพื้นที่ในราคาที่ถูก และหากมีกำไรก็จะกลับมายังชุมชนอีกต่อเหมือนกระจายรายได้ให้ชุมชนทั่วประเทศ โดยกระทรวงพลังงานเตรียมออกประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ชุมชนในเดือน พ.ย. นี้
โครงการโซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร กว่า 1,200 ระบบทั่วประเทศ จะสร้างเม็ดเงินผ่านการลงทุนมากกว่า 12,500 ล้านบาท และผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ถึง 87.5 เมกะวัตต์
เร่งอนุมัติการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลัก ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่จะติดตั้งในเขื่อนภูมิพล เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีกำลังการผลิตรวม 1,638 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเกิดการลงทุนกว่า 53,000 ล้านบาท และลดต้นทุนผลิตไฟฟ้า
การลดหย่อนภาษีสูงสุด 20,000 บาท สำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟฟ้าใช้เองได้เร็วขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วม 90,000 ครัวเรือน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนได้กว่า 20,250 ล้านบาท ลดการใช้ไฟฟ้าได้ 585 ล้านหน่วยต่อปี
หากดูจากข้อมูลการวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าความต้องการไฟฟ้าหมุนเวียนจากภาครัฐถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวราว 2% และภาคเอกชนที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นถึง 15% โดยปี 68 ได้ถูกคาดการณ์ไว้ว่ามีปริมาณไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ขายให้ภาครัฐอยู่ที่ 23,555 GWh ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมด้านนโยบายภาครัฐ
สอดคล้องกับข้อมูล ที่ได้ประเมินเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดนี้ ว่าจะช่วยให้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในไทยเพิ่มขึ้นสูงสุด 1.4 เท่า และลดค่าไฟครัวเรือนราว 50 – 60% ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่นั้น ที่คาดว่าออกแผน PDP ในปี 2026 อีกด้วย ซึ่งกระทรวงพลังงานประเมินไว้ว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากมูลค่าการลงทุนที่สูงถึง 700,000 ล้านบาท มีการจ้างงานกว่า 16,000 ตำแหน่ง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 10 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่างประเทศ
ไทย
ไทย
ไทย