Cloud Washing เมื่ออธิปไตยคลาวด์ กลายเป็นแค่กลยุทธ์การตลาด

สังคม

“Cloud Washing” เมื่ออธิปไตยคลาวด์ กลายเป็นแค่กลยุทธ์การตลาด ?

Clock Icon

16 ธันวาคม 2568

แชร์ :

ช่วงนี้วงการธุรกิจคลาวด์มักจะพูดถึงเรื่อง “อธิปไตยด้านข้อมูล” กันบ่อยขึ้นมาก ซึ่งผู้ให้บริการจำนวนไม่น้อยที่บอกว่า บริการของเขาจัดเก็บข้อมูลไว้ในประเทศ และเป็นไปตามข้อกำหนดของภาครัฐเพื่อลดความกังวลของผู้ใช้งาน 

ฟังแล้วดูดี แต่นี่อาจเป็นการทำ Cloud Washing แบบเนียน ๆ หรือไม่ เพราะปัจจุบันผู้ใช้งานเริ่มรู้จักให้ความสำคัญกับข้อมูล รวมถึงภาครัฐเองก็เริ่มให้ความสำคัญกับการจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศมากขึ้น เพราะข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงสำคัญในระดับบุคคล แต่อาจเป็นกลยุทธ์ด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ซึ่งผู้ให้บริการหลายรายก็อาจบิดเบือนความหมายที่แท้จริงได้เช่นกัน


Cloud Washing : เมื่อคำโฆษณา สวนทางกับความจริง

Cloud Washing คือการตลาดที่แอบอ้างว่า บริการคลาวด์เป็นแบบอธิปไตย ทั้งที่จริงยังพึ่งพาผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่จากต่างประเทศ (Hyperscalers) อยู่แทบทั้งหมด เรื่องนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงในหมู่นักวิเคราะห์ว่า “อธิปไตยทางข้อมูล” ในด้านธุรกิจคลาวด์มันอาจเป็นแค่ฉากบังหน้า เพราะในความเป็นจริงทำได้แบบ 100% ยากมาก 

หลายครั้งเรามักถูก “การตลาด” ทำให้เชื่อว่า การมี ดาต้าเซ็นเตอร์อยู่ในประเทศ = ข้อมูลจะอยู่ภายใต้อำนาจการดูแลของประเทศนั้น แต่ไม่ทันนึกว่า “บริษัทแม่” ของผู้ให้บริการนั้นจดทะเบียนที่ประเทศไหน อยู่ภายใต้กฎหมายใด แล้วรัฐมีอำนาจสั่งให้ส่งข้อมูลได้หรือไม่  

ยังไม่รวมถึงระบบยังอาจถูกออกแบบให้ผู้ให้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อยู่เหมือนเดิม จากการผูกอยู่กับภายใต้กฎหมายของประเทศต้นทางของผู้ให้บริการ ผลคือ อธิปไตยด้านข้อมูลที่โฆษณาไว้อาจไม่เป็นอย่างนั้น

จะขอยกตัวอย่างบทความของ The New Stack ที่ชื่อ Cloud Washing in the Age of AI : When ‘Sovereign’ Isn’t ซึ่งบอกไว้ว่า Cloud Washing คือการตลาดที่แอบอ้างว่า บริการคลาวด์เป็นแบบอธิปไตย ทั้งที่จริงยังพึ่งพาผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่จากต่างประเทศอยู่แทบทั้งหมด 

หมายความว่าการที่จะทำให้อธิปไตยทางดิจิทัลเป็นจริงได้ ผู้ให้บริการต้องมีอำนาจควบคุมเทคโนโลยีและการดำเนินงานภายในประเทศ มีการควบคุมที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ข้อมูลจัดเก็บในประเทศโดยที่ไม่ถูกกฎหมายต่างประเทศสั่งการเข้าถึงข้อมูลง่ายๆ เช่นตอนนี้มีกฎหมาย Cloud Act ของสหรัฐฯ หรือ Clarifying Lawful Overseas Use of Data (CLOUD) Act ก็กำลังเป็นตัวเร่งให้องค์กรต่างๆ ทบทวนกลยุทธ์คลาวด์มากขึ้น จนทำให้สหภาพยุโรปเองต้องเร่งสร้าง Cloud Sovereignty Framework เพื่อปกป้องข้อมูลในประเทศของตัวเองให้มากที่สุด

ซึ่งตอนนี้ประเทศไทย มีผู้ให้บริการ hyperscalers เข้ามาลงทุนจำนวนมาก เราในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูล ก็ควรมีการพิจารณาให้รอบคอบว่า ข้อมูลทางธุรกิจ หรือแม้แต่ข้อมูลสำคัญของประเทศ ควรถูกเก็บที่ไหน และจะให้ใครเข้าถึงได้ รวมถึงควรเลือกใช้ผู้ให้บริการที่มี “อธิปไตยทางข้อมูล” อย่างแท้จริง เพื่อให้ไทยยังรักษาอำนาจในการกำกับดูแลข้อมูลภายในประเทศและไม่ถูกแทรกแซงในภายหลัง 

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“Cloud Washing” เมื่ออธิปไตยคลาวด์