
สังคม
มาตรการใหม่ อุดช่องโหว่ใหญ่ ซิมผี - บัญชีม้า คุมเข้มแพลตฟอร์มยืนยันตัวตน
11 พฤศจิกายน 2568
แชร์ :
ยุคที่เราทำธุรกรรมทางการเงินแทบทั้งหมดผ่านมือถือแค่เครื่องเดียว ทั้งการซื้อของ หรือโอนเงิน ทำให้ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินของเราเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์ได้ง่ายมากขึ้น
ความสะดวกที่มาพร้อมช่องโหว่ ?
เพราะเมื่อธุรกรรมหลายอย่างทำได้ในมือถือแค่เครื่องเดียว จึงเป็นโอกาสทองของมิจฉาชีพ ที่เข้ามาแฝงตัวได้อย่างแนบเนียน ช่วงปี 65 ถึงปัจจุบันมีสถิติการแจ้งความคดีออนไลน์ยังพุ่งถึง 1 ล้านคดีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 98,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินเอง
โดยช่องทางการหลอกลวงยอดนิยมคงหนีไม่พ้นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยมี AI ที่ทำให้กลโกงแนบเนียนยิ่งขึ้น จึงเกิด“การหลอกลวงที่ง่าย ขยายเร็ว และใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น ซึ่งการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ให้ได้ผล จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ “แพลตฟอร์ม” กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จึงเรียกประชุมแพลตฟอร์มอย่าง Google, LINE และ TikTok เพื่อยกระดับมาตรการตรวจสอบผู้ใช้งาน
โดยเสนอให้เพิ่มขั้นตอนตรวจสอบชื่อ-นามสกุลจริง หรือใช้เทคโนโลยีสแกนใบหน้า (Facial Recognition) ร่วมกับการยืนยันผ่านเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อปิดช่องโหว่ที่สแกมเมอร์ใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์
ช่องโหว่ระบบที่เปิดทางให้ “ซิมผี” และบัญชีม้าขยายตัวได้ง่าย
ปัจจุบัน ไทยมีหมายเลขซิมในระบบกว่า 109 ล้านหมายเลข แต่ในช่วงปลายปี 66 ที่มี 94.6 ล้านหมายเลข กลับพบว่ามีกลุ่มผู้ครอบครองซิม 6–100 เลขหมายมีประมาณ 2.8 แสนคน ครอบครองรวม 3.3 ล้านซิม และกลุ่มผู้ครอบครองมากกว่า 101 เลขหมายมี 7,664 คน ครอบครองรวม 6.1 ล้านซิม ซึ่งส่วนหนึ่งถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเปิดบัญชีม้า รับโอนเงิน หรือปลอมตัวตนในการหลอกลวงออนไลน์
ดีอีจึงมอบหมายให้ กสทช. จำกัดการถือครองซิมไม่เกิน 5 หมายเลขต่อคน และบังคับใช้ระบบลงทะเบียนแบบ Dip Chip เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นการปิดช่องโหว่ตั้งแต่ต้นทาง สะท้อนถึงความพยายามสร้างระบบดิจิทัลที่ปลอดภัยมากขึ้น
แต่สิ่งสำคัญในการลดผลกระทบไม่ใช่แค่พึ่ง “เทคโนโลยี” หรือ “มาตรการรัฐ” เพียงอย่างเดียว เพราะเราก็ควรใช้เทคโนโลยีอย่างระมัดระวัง ไม่คลิกลิงก์โดยไม่ตรวจสอบ ไม่โอนเงินโดยไม่รู้ปลายทาง และรู้จักตั้งคำถามเมื่อถูกกดดันให้รีบตัดสินใจ ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยจากมิจฉาชีพมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทย
ต่างประเทศ
ไทย