
ช่วงต้นเดือน มี.ค. 68 ที่ผ่านมา เราจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับ \"น้ำมัน SAF\" ซึ่งกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาบอกว่ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อผลักดันประเทศให้เป็น ศูนย์กลางการบินพลังงานสะอาดของภูมิภาคอาเซียน มุ่งเน้น “การซื้อขายน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว” หรือวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ผลิต SAF โดยมีเครื่องมือทางภาษีอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม โดยไทยจะเริ่มบังคับใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) สัดส่วน 1% สำหรับเที่ยวบินไปยุโรป เพื่อรองรับข้อกำหนดของ EU ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณา เพื่อเตรียมออกเป็นข้อบังคับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 68
● จากน้ำมันเหลือใช้ในครัวเรือน สู่เชื้อเพลิงสีเขียว
น้ำมัน SAF (Sustainable Aviation Fuel) หรือเชื้อเพลิงการบินที่ผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว สามารถลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงการบินในปัจจุบัน
โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตสามารถใช้แทนน้ำมันเครื่องบินแบบดั้งเดิมได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนโดยการขายน้ำมันเหลือใช้ให้กับหน่วยงานที่รับซื้อได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีบริษัทรับซื้อน้ำมันใช้แล้วอย่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เปิดจุดรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากครัวเรือน โดยสามารถนำไปขายตามจุดรับที่ร่วมโครงการ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก 162 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 84 สาขา และต่างจังหวัดจำนวน 78 สาขา ซึ่งจะมีการรวบรวมเพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการผลิต SAF ต่อไป
การที่ไทยเตรียมทดสอบใช้น้ำมัน SAF ในเที่ยวบินยุโรปปลายปีนี้ เป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า แนวทางด้านพลังงานสะอาดเริ่มมีบทบาทจริงในนโยบายระดับประเทศ ความคาดหวังต่อผลการทดลองครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของความสำเร็จทางเทคนิค แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าโครงการกำลังเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เพราะจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ชี้วัดว่า น้ำมัน SAF จะเป็นเชื้อเพลิงหลักใน “อนาคตของการบินไทย” ได้จริงหรือไม่
สำหรับใครที่สนใจขายน้ำมันเหลือใช้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดจุดรับซื้อได้ที่เว็บไซต์ https://shorturl.asia/7ognL และเลือกเข้ารับบริการสถานีใกล้เคียงได้เลยค่ะ
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม โดยไทยจะเริ่มบังคับใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) สัดส่วน 1% สำหรับเที่ยวบินไปยุโรป เพื่อรองรับข้อกำหนดของ EU ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณา เพื่อเตรียมออกเป็นข้อบังคับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 68
● จากน้ำมันเหลือใช้ในครัวเรือน สู่เชื้อเพลิงสีเขียว
น้ำมัน SAF (Sustainable Aviation Fuel) หรือเชื้อเพลิงการบินที่ผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว สามารถลดการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงการบินในปัจจุบัน
โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตสามารถใช้แทนน้ำมันเครื่องบินแบบดั้งเดิมได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สร้างรายได้ให้กับประชาชนโดยการขายน้ำมันเหลือใช้ให้กับหน่วยงานที่รับซื้อได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีบริษัทรับซื้อน้ำมันใช้แล้วอย่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เปิดจุดรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากครัวเรือน โดยสามารถนำไปขายตามจุดรับที่ร่วมโครงการ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก 162 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 84 สาขา และต่างจังหวัดจำนวน 78 สาขา ซึ่งจะมีการรวบรวมเพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการผลิต SAF ต่อไป
การที่ไทยเตรียมทดสอบใช้น้ำมัน SAF ในเที่ยวบินยุโรปปลายปีนี้ เป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า แนวทางด้านพลังงานสะอาดเริ่มมีบทบาทจริงในนโยบายระดับประเทศ ความคาดหวังต่อผลการทดลองครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของความสำเร็จทางเทคนิค แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าโครงการกำลังเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เพราะจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ชี้วัดว่า น้ำมัน SAF จะเป็นเชื้อเพลิงหลักใน “อนาคตของการบินไทย” ได้จริงหรือไม่
สำหรับใครที่สนใจขายน้ำมันเหลือใช้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดจุดรับซื้อได้ที่เว็บไซต์ https://shorturl.asia/7ognL และเลือกเข้ารับบริการสถานีใกล้เคียงได้เลยค่ะ
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
SAFเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนน้ำมันSustainableAviationFuelsustainabilityLocaltechTechMovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความยั่งยืน
กักเก็บพลังงานสะอาด ด้วยแบตเตอรี่ยักษ์จากธรรมชาติ


ความยั่งยืน
พลาสติกละลายน้ำได้ ! ทางออกปัญหามลพิษจากขยะ


ความยั่งยืน
2025 ปีแห่งสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ


ความยั่งยืน
T-CAVs และการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนไทยสู่อนาคต
