
หลายฝ่ายตีความความขัดแย้งระหว่างชายแดนไทย – กัมพูชา ว่าไม่ใช่เพียงการปะทะทางทหารเพื่อยึดครองพื้นที่ แต่เป็นยุทธศาสตร์ในการกำจัดเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งสแกมเมอร์ ที่ใช้พื้นที่ชายแดนและอาคารพลเรือนในกัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงเหยื่อทั่วโลก ซึ่งถูกสื่อตีความว่าเป็น “สงครามไฮบริด” ของไทย
กัมพูชากลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “Scambodia” ศูนย์สแกมออนไลน์กว่า 53 แห่งกระจายตัวในเมืองสำคัญ เช่น พนมเปญ สีหนุวิลล์ และโพอิเพ็ต โดยเครือข่ายเหล่านี้มีรายได้ประมาณ 12.5-19 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งมากกว่ารายได้ประชากรบางส่วนของกัมพูชาเกิน 60% ของ GDP ของพื้นที่ ซึ่งไทยไม่ได้มองแค่การยึดดินแดน แต่เป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของเครือข่ายมิจฉาชีพ ที่สร้างความเสียหายต่อทั้งเศรษฐกิจและความปลอดภัยของประชาชน
โดยไทยได้ปรับยุทธศาสตร์จากการสู้รบแบบดั้งเดิมมาสู่การ โจมตีฐานปฏิบัติการของแก๊งสแกมเมอร์ ที่ใช้คาสิโน รีสอร์ต และอาคารสำนักงานในกัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการออนไลน์หลอกลวงเหยื่อทั้งไทย จีน และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยมีรายงานว่ามีศูนย์สแกมที่เกี่ยวข้องมากกว่า 6 แห่งในเขตชายแดน
นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยล่าสุดไทยเป็นเจ้าภาพจัด Global Partnership Against Online Scams ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีตัวแทนกว่า 300 คนจากเกือบ 60 ประเทศร่วมลงนามในข้อตกลงเพื่อการทำงานร่วมกันในการปราบสแกมเมอร์ สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายข้ามพรมแดน ปกป้องเหยื่อ และเสริมสร้างความตระหนักต่อปัญหานี้ แม้ว่ากัมพูชาซึ่งเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางสแกมเมอร์จะไม่ได้เข้าร่วมงานนี้ก็ตาม
ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาในตอนนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องเขตแดนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับภัยไซเบอร์และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายประเทศ และช่วยสกัดเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ ที่จะลดความเสียหายของประชาชน และยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้มากขึ้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัมพูชาประกาศเตือนประชาชน หยุดแชร์ข่าวจากโซเชียลไทย
กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคม ร่วมกับกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชา ออกคำแนะนำให้ประชาชนหยุดแชร์ข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์ของไทย เนื่องจากเนื้อหาที่เผยแพร่ในไทยบางส่วนอาจสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศ

