หนีเสือปะจระเข้ กฎหมายปกป้องเยาวชน ความปลอดภัยที่ต้องแลกด้วยตัวตน

สังคม

หนีเสือปะจระเข้? กฎหมายปกป้องเยาวชน ความปลอดภัยที่ต้องแลกด้วยตัวตน

Clock Icon

17 ตุลาคม 2568

แชร์ :

หลังรัฐบาลออสเตรเลียประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่ โดยบังคับให้แพลตฟอร์มต้อง “ตรวจอายุ” ของผู้ใช้ให้แน่ชัด เพื่อปกป้องเยาวชนจากคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม

ซึ่งรัฐบาลต้องการให้แพลตฟอร์มใช้หลายวิธีผสมกัน เช่นให้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน อย่างเวลาที่เล่น ลักษณะการพิมพ์ หรือคอนเทนต์ที่ดู เพื่อคาดเดาอายุของผู้ใช้ โดยเรียกแนวทางนี้ว่า “ตรวจสอบแบบไม่ล่วงล้ำ” เพราะไม่ต้องขอข้อมูลส่วนตัวอย่างบัตรประชาชนหรือภาพถ่ายหน้าจริง

ถ้าเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวน้อยลง จะแน่ใจได้ยังไงว่าใครคือตัวจริง

ตราบใดที่ยังมี “บัญชีปลอม” หรือ “ตัวตนสวมรอย” อยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆ ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบได้ ซึ่ง Meta Transparency Report (2024) ระบุว่า Facebook มีบัญชีปลอมราว 3% ของผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งเทียบเท่าหลายร้อยล้านบัญชี ซึ่งมากพอที่จะทำให้ระบบ AI เข้าใจผิดได้ภายในไม่กี่วินาที

ซึ่งก่อนออกกฎหมาย รัฐบาลได้ทดลองใช้เทคโนโลยีหลายวิธีในการตรวจสอบอายุผู้ใช้อย่างการใช้ข้อมูลชีวมิติ (Biometric Data) เช่น ภาพใบหน้า หรือเสียงของผู้ใช้ ให้ระบบ AI ช่วยทำนายว่าอายุเท่าไหร่ ซึ่งพบว่าระบบยังมีจุดบกพร่อง โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 13–16 ปี ที่ระบบมักคาดเดาผิดบ่อย

ส่วนการวิเคราะห์พฤติกรรมก็ไม่แม่นยำเช่นกัน เพราะพฤติกรรมของแต่ละคนไม่สะท้อนอายุจริง อย่างเด็กบางคนดูข่าวเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้ใหญ่บางคนดูการ์ตูน ทำให้ระบบสับสนได้ง่าย อีกทั้งพฤติกรรมยังเปลี่ยนตลอดเวลา และไม่มีข้อมูลจริงให้ AI เรียนรู้มากพอ

ล่าสุด Google ก็ออกมาเตือนว่า “เรื่องนี้แทบเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ” และอาจสร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะการตรวจสอบในลักษณะนี้ อาจกลายเป็นการเปิดให้บริษัทเทคและรัฐเข้าถึง “ตัวตนดิจิทัล” ของประชาชนมากเกินไป

ซึ่งอาจเสี่ยงที่จะนำไปสู่ Function Creep หรือที่เรียกว่า ฟังก์ชันคืบคลาน ที่สร้างจากวัตถุประสงค์หนึ่ง แต่ค่อยๆ ถูกขยายขอบเขต จนสุดท้ายถูกนำไปใช้ในบริบทที่ต่างออกไปจากเดิม

ปี 2006 ยุโรปก็เคยออกกฎหมาย EU Data Retention Directive เพื่อเก็บข้อมูลโทรศัพท์ไว้ใช้ติดตามผู้ก่อการร้าย แต่ข้อมูลเหล่านั้นกลับเอื้อให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงข้อมูลประชาชนทั่วไปได้ แม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมใดๆ จนศาลยุโรปต้องสั่งเพิกถอนในปี 2014 เพราะถือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเกินจำเป็น

กฎหมายของออสเตรเลียจึงกลายเป็น “กรณีศึกษา” ที่ทั่วโลกต้องจับตามอง ว่าการแบนไม่ให้เด็กโซเชียล โดยใช้ AI ตรวจสอบ จะช่วยปกป้องเด็กได้จริงหรือไม่

หากกฎหมายนี้ไม่สามารถเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างเป็นรูปธรรม มันอาจยิ่งกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงทั่วโลกถึงแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการปกป้องเยาวชนออนไลน์ เพราะทางออกที่แท้จริงอาจไม่ใช่การห้ามเด็กใช้โซเชียล แต่คือการเสริมบทบาทผู้ปกครอง และพัฒนาเครื่องมือความปลอดภัยที่เคารพสิทธิส่วนบุคคลให้มากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนีเสือปะจระเข้? กฎหมายปกป้องเยาวชน